*** เสนอมีพระปริยัตินิเทศก์ทุกอำเภอรับมือภัยศาสนา ***

วันที่ 23 ธันวาคม 2559
กรรมการมหาเถรสมาคมย้ำเตือนพระปริยัตินิเทศก์ต้องตระหนักรู้ในหน้าที่ของตน ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม พร้อมเสนอมหาเถรสมาคมขอให้มีพระปริยัตินิเทศก์ครบทุกอำเภอ เพื่อเป็นพลังช่วยปกป้องพระพุทธศาสนาและทำงานเชิงรุกในทุกพื้นที่...
วันนี้(23 ธ.ค.) ในการประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์ทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2560 จัดโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ณ วัดสามพระยา พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวสัมโมทนียกถาว่า พระปริยัตินิเทศก์ จะต้องทำหน้าที่ในการจัดการศึกษาคณะสงฆ์ให้เกิดความเข้มแข็ง โดยเฉพาะพระภิกษุที่ทำหน้าที่พระปริยัตินิเทศก์ จะต้องมีอาจาระที่งดงามเป็นแบบอย่างให้แก่ครูและนักเรียน ที่สำคัญจะต้องขยันตั้งใจพัฒนาการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ อีกทั้งต้องมีความรู้ในการถ่ายทอดให้แก่บุคลากรทางการศึกษาด้วย อย่างไรก็ตา การเป็นพระปริยัตินิเทศน์ ไม่ใช่เพียงแต่รอรับนิตยภัตเพียงอย่างเดียว แต่ต้องไม่ลืมหน้าที่ของตนในการเป็นพุทธสาวก เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เกิดประโยชน์ต่อคณะสงฆ์และสังคมด้วย
พระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กรรมการมส. ในฐานะประธานศูนย์พระปริยัตินิเทศก์ส่วนกลาง กล่าวว่า พระปริยัตินิเทศก์ ต้องทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม อย่าคิดแต่เรื่องส่วนตัว ซึ่งต้องยอมรับว่า สังคมเปลี่ยนเป็นวัตถุนิยมอย่างรวดเร็ว ในฐานะคณะสงฆ์จะทำอย่างไรที่จะนำธรรมะนิยมไปสู้กับวัตถุนิยม จึงอยากให้พระปริยัตินิเทศก์ตั้งเป้าหมายว่า จะทำอย่างไรจึงจะสู้กับวัตถุนิยมนี้ได้ ซึ่งตนได้เสนอพศ.ไปว่า ควรที่จะมีพระปริยัตินิเทศก์ทุกอำเภอเพื่อช่วยเหลือการศึกษาคณะสงฆ์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในการสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นกับประชาชน เนื่องจากปัจจุบันมีพระปริยัตินิเทศก์ทั่วประเทศเพียง 600รูปเท่านั้น หากมีทุกอำเภอได้ก็จะทำให้การทำงานมีพลังมากขึ้นในการปกป้องพระพุทธศาสนา
“ พระปริยัตินิเทศก์รูปไหนหากรู้ว่าทำหน้าที่ไม่ได้ ก็ไม่ควรรับหน้าที่นี้ ควรเปิดโอกาสให้รูปอื่นได้ทำงาน ยิ่งสถานการณ์ทุกวันนี้พระพุทธศาสนาน่าเป็นห่วงมีทั้งภัยภายนอกและภัยภายใน โดยเฉพาะการรุกคืบการจัดหลักสูตรด้านศาสนาในโรงเรียนของศาสนาอื่นๆ โดยใช้รูปแบบกฎหมายที่จะเกิดผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นอาตมาจึงอยากให้พระปริยัตินิเทศก์ รวมตัวให้เข้มแข็ง เมื่อรู้ภัยของพระศาสนาแล้ว ต้องร่วมกันคิดให้ได้ว่า จะทำอย่างไรจึงจะบรรจุวิชาพระพุทธศาสนาให้มีในสถานศึกษา ต้องรุกเข้าถึงเยาวชนให้ได้ หากปล่อยไว้เช่นนี้ พระพุทธศาสนาไปไม่รอด จึงอยากให้พระปริยัตินิเทศน์ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในประเทศไทยให้ได้”กรรมการมส.กล่าว... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/education/544554
