top of page

นักวิชาการพุทธไทยร่วมถกหาทางโลกรอดกับมหาวิทยาลัยมะกัน

  • สนข.ชาวพุทธ
  • 26 ต.ค. 2559
  • ยาว 2 นาที

27ต.ค.2559 ร.ท.บรรจบ บรรณรุจิ,ผศ.,ดร. นักวิชาการพุทธศาสนา ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26 ต.ค.2559 ถึงวันที่ 5 พ.ย.2559 ตนได้รับเชิญจากมหาวิทยานโรปะ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก (World Buddhist University) เพื่อเสนอบทความเรื่อง "The Buddha's Teachings for The Administration As Found in The Buddhist Texts" ในงานประชุมสัมมนาวิชาการ นอกจากนี้ยังได้รับเชิญให้บรรยายพิเศษเรื่อง "The Four Foundations of Mindfulness in Comparision with the Tibetan Practice" ร่วมกับพระชาวทิเบตซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยานโรปะด้วย มหาวิทยาลัยนาโรปะนั้น เริ่มต้นที่มลรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ในคศ. 1947 ก่อตั้งโดยเชอเกียม ตรุงปะ รินโปเช ผู้นำจิตวิญญาณชาวทิเบต มีการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นไปที่การสืบค้นสำรวจภายในตนเอง การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงและการรับฟังด้วยใจที่เปิดกว้าง ซึ่งจะนำไปสู่การตระหนักรู้การหยั่งรู้ ความเปิดกว้าง ความเคารพในความเป็นมนุษย์และการยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย ทั้งนี้บทความเรื่อง"บทเรียนจากมหาวิทยาลัยนาโรปะ" เขียนโดย อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้ระบุไว้ว่า นาโรปะเป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 โดย เชอเกียม ตรุงปะ รินโปเช ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สืบทอดคำสอนของพุทธศาสนาแนวธิเบต นิกายคากิวและนิงมา เมื่อครั้งที่จีนทำการยึดประเทศธิเบต ในปี พ.ศ. 2536 ตรุงปะจำต้องลี้ภัยออกมาตามแนวเทือกหิมาลัย มายังตอนเหนือของประเทศอินเดีย ถึงแม้กระนั้น ท่านก็ทำการเผยแพร่ธรรมมะอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับสมเด็จองค์ทะไลลามะ และอาจารย์ฝ่ายธิเบตคนอื่นๆ และในปี พ.ศ. 2509 ท่านได้รับทุนการศึกษาสปอลดิ้ง ให้ได้เข้าศึกษาด้านศาสนาเชิงเปรียบเทียบ ปรัชญาศึกษา และศิลปกรรมที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท่านพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษจนแตกฉาน และเข้าใจถึงความต้องการด้านจิตวิญญาณของโลกตะวันตก ในปี พ.ศ. 2513 ท่านตรุงปะเริ่มเดินทางไปสอนธรรมมะและเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาร่วม 17 ปี โดยที่ท่านได้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติสมาธิภาวนาหลายแห่งในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ด้วยเหตุที่ท่านมีทั้งความเป็นนักวิชาการ เป็นศิลปิน และอาจารย์สอนสมาธิภาวนา จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอาจารย์สอนพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในโลกตะวันตก เมื่อก่อตั้งนาโรปะขึ้นนั้น วิสัยทัศน์ทางการศึกษาของสถาบันก็คือ นาโรปะจะเป็นมหาวิทยาลัยที่หลอมรวมเอาองค์ประกอบของการสอนด้านจิตหรือภาวนา และการศิลปะแขนงต่างๆ รวมทั้งการศึกษาแนวตะวันตก ผนวกไว้ด้วยกัน และในปี พ.ศ. 2520 ท่านตรุงปะได้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติชัมบาลาขึ้นสำหรับฆารวาสผู้มีความสนใจในการปฏิบัติ มหาวิทยานโรปะนั้นได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ที่มีนิสิตทั้งบรรพชิตและคฤหัสทุกระดับตั้งแต่ปริญญาตรีถึงเอกทุกวิทยาลัยเขตทั่วประเทศกว่า 1 หมื่นรูป/คน มีพันธกิจและหน้าที่ต้องปฏิบัติธรรมตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน ที่ทางมหาวิทยาลัยมีปรัชญาจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคมควบคู่กัน ในการจัดการปฏิบัติธรรมที่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโมลี เขาใหญ่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในปี 2557 ทั้งนี้ทั้งสองมหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่า ประชาสังคมโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในสังคม ทำให้เป็นทุกข์ ดังนั้นมนุษย์จึงเริ่มตระหนักในการหาทางพ้นทุกข์ มีความสนใจในการปฏิบัติตนเพื่อเข้าถึงความสุขในชีวิตมากขึ้น โดยการพยายามฝึกตนเพื่อดำรงชีวิตในโลกอย่างมีสติรู้ทันต่อสภาวการณ์เข้าใจสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอันประกอบด้วยปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดความทุกข์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น มนุษย์จึงต้องการหาคำตอบเพื่อสนองต่อการปฏิบัติฝึกตนเองตามแนวทางที่ถูกต้องอันจะนำไปสู่ความสงบสุขภายในจิตใจมากขึ้น ขณะเดียวกัน มจร จัดการศึกษาพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม โดยมีวิสัยทัศน์เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติเพื่อพัฒนานิสิตให้มีความรู้และพัฒนาจิตใจเพื่อสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติธรรมตามหลักสติปัฏฐาน 4 ดังนั้นการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน 4 (นานาชาติ) จึงเป็นการพัฒนาตัวเองก้าวสู่การมีสติรู้ทันต่อสังคมโลก และนำหลักการ วิธีการทางพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่เพื่อบริการสังคมเป็นการขยายงานทางพุทธศาสนาให้สอดรับกับการเปิดประชาคมอาเซียน และระดับนานาชาติต่อไป จึงนับเป็นอัตลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของนิสิตเพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกองคาพยพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ในการสานสัมพันธ์กิจกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัย องค์กรในระดับนานาชาติ โดยบริการกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อสังคมโลกอย่างเป็นระบบด้วยการให้ความรู้ทางพระพุทธศาสนา และผู้ที่ผ่านประสบการณ์ปฏิบัติจริงของตน เป็นกัลยาณมิตร แนะนำเทคนิคการปฏิบัติ และร่วมปฏิบัติด้วยกัน จึงเป็นการสนับสนุนให้ผู้ที่มีประสบการณ์การปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน 4 อยู่แล้ว มีพัฒนาการเกื้อหนุนต่อการเผยแผ่และทำงานทางวิชาการต่อไปในระดับนานาชาติ ดังนั้น โครงการปฏิบัติธรรมนานาชาติ จึงจัดขึ้นด้วยศรัทธาและบูรณาการอัตลักษณ์ของนิสิตที่พึงประสงค์สู่การทำงานเพื่อบริการสังคมด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการมีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุข สมดุลกับธรรมชาติ และโลกปัจจุบันได้อย่างมีสติรู้ทัน สามารถนำความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนาไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตสู่สันติสุขส่วนตน สันติภาพส่วนสังคม และเผยแผ่องค์ความรู้สู่สันติภาพโลกตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ที่จะสร้างอัตลักษณ์ของนิสิตที่พึงประสงค์ต่อไป ร.ท.บรรจบในฐานะประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยกล่าวด้วยว่า ตั้งใจว่าหลังจากเสร็จจากภารกิจสัมมนาที่มหาวิทยาลัยนโรปะแล้วจะไปร่วมจัดตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยสหรัฐอเมริกาที่รัฐเนวาดา ซึ่งมีชาวพุทธไทยรออยู่เป็นจำนวนมาก จากนั้นจะไปคุยต่อรัฐชิคาโกกับลูกศิษย์มหาจุฬาฯ อดีตพระธรรมทูตเพื่อหาลู่ทางจัดตั้งสมาพันธ์ที่นั้น "ผมไปอเมริกาหลายครั้ง ครั้งนี้ถือว่าภูมิใจที่สุด เพราะมีภารกืจสำคัญคือไปพูดเรื่องพุทธธรรม และการเปรียบเทียบภาคปฏืบัติกับต่างนิกายในมกาวิทยาลัยช้นนำ และภารกิจสำคัญคือการตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธเพื่อปลูกจิตชาวพุทธที่อยู่ต่างแดนให้คิดช่วยสถานการณ์พระพุทธศาสนาในบ้านเกิด"ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยกล่าวและว่า ทั้งนี้ตนและกลุ่มชาวพุทธส่วนหนึ่งมีความห่วงใยภัยของพระพุทธศาสนา จึงได้มีการรวมตัวกันจัดตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อทำหน้าที่ปกป้องอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา รวมถึงส่งเสริมดำเนินการตามวิถีพุทธ เพื่อให้ชาวพุทธทั่วประเทศได้ตื่นรู้ต่อภัยของพระพุทธศาสนา ซึ่งตนขอเสนอแนะว่า ชาวพุทธต้องมองการปฏิรูปกิจการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบการวิจัย โดยมีการตั้งคำถามให้มีการอภิปรายร่วมกันว่า วันนี้การเผยแผ่พระพุทธศาสนามีปัญหาหรือไม่ ปัญหาอยู่ตรงไหน และต้องยอมรับความจริงให้ได้ ซึ่งเวลานี้ประเทศไทยมีพระนักเทศน์จำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชาวพุทธตื่นรู้ภัยของพระพุทธศาสนาได้ "การรักษาพระศาสนาเป็นส่วนหนึ่งที่สมาพันธ์ฯจะดำเนินการ โดยเฉพาะการปลุกพระภิกษุสงฆ์ให้ตื่นรู้ภัยของพระพุทธศาสนา และจะมีการขยายเครือข่ายสมาพันธ์ไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการตอบรับมาแล้วทุกภูมิภาค ซึ่งเชื่อว่าการมีสมาพันธ์ชาวพุทธทั่วประเทศ ถึงแม้จะไม่มีกำลังงบประมาณ แต่ก็จะอาศัยกำลังใจที่จะสู้เพื่อสร้างศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ได้ตลอดไป" ร.ท.บรรจบกล่าว ด้าน นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธฯ กล่าวว่า ขณะนี้มี 7 จังหวัดที่ก่อตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัด และได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์สำเร็จแล้ว ได้แก่ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุโขทัย ชัยนาท เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่จะเป็นมหาเปรียญที่มีความรู้ทางวิชาการพระพุทธศาสนา ผู้แทนพุทธสมาคม ผู้แทนคณะสงฆ์ และมีอีก 40 กว่าจังหวัดกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้ง

รายงานโดย สำราญ สมพงษ์ (บก.ข่าว TBC NEWS

"ถึงอเมริกาแล้ว แต่ยังไม่ถึงที่หมาย เครื่องบินอีต่อเดียวก็ถึงโคโรราโด เมืองปลายทาง"

@ เดินทางครั้งนี้เหนื่อยหน่อยเพราะต้องต่อถึง ๓ ทอด ...ทอดที่หนึ่ง จากสุวรรณภูมิถึงนาริตะ จากบ้านเรามาถึงนาริตะ ญี่ปุน ใช้เวลา ๕ ชัวโมงครึ่ง ทอดที่สองจากนาริตะถึงลอสเองจางลิส จากนาริตะถึงลอสแองเจลิสใช้เวลา ๑๒ ชั่วโมงกว่า

@ ๑๒ ชั่วโมงบนเครื่องบินมีประโยชน์มาก...นั่งอยู่กับคนแปลกหน้าไม่รู้จักกันจึงทำได้หลายอย่าง...หลับ ทานข้าว เจริญสติปัฏฐานดูกาย ดูจิต ดูหนัง และเขียนบันทึก ไม่ได้ทำอย่างเดียวคือคุย

@ การเจริญสติปัฏฐานเป็นงานที่สนุกที่สุด เพราะเป็นงานทางจิตได้ทั้งความสุขเมื่อเกิดสมาธิและหากขาดสติก็หลับ ใช้เป็นคู่มือการเดินทางไกลคนเดียวได้ดี เมื่อก่อนผมไม่ชอบเดืนทางไกลคนเดียวเพราะเหงา แต่ตอนนี้มีความจำเป็นต้องเดินทางไกลคนเดียวมากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายแพง เลยต้องแก้เหงาด้วยการเจริญสติปัฏฐาน ซึ่งทำได้แล้วสนุกมีคงามสุขมาก

@ ผมเพิ่มการไหว้พระสวดมนต์มาด้วย แต่ทำแบบสั้นให้เป็นสัญลักษณ์เตือนใจว่าเป็นชาวพุทธควรไหว้พระสวดมนต์ให้เป็นวิถีพุทธอย่างน้อยวันละ ๒ ครั้งคือเช้ากับเย็น แม้จะในช่วงเดินทสงไกก็ตาม ผมสวดมนต์ไหว้พระตามรูปแบบที่ผมทำไว้ วันหลังจะเผยแพร่...

@ ผมทำทุกอย่างบนเครื่องบินแบบไม่ให้ผิดสังเกตเกรงว่าผู้โดยสารคนอื่นๆจะตกใจ เพราะผมเคยตกใจมาแล้วกับเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ผมนั่งเครื่องบินไป ...ตอนเที่ยงวัน จู่ๆก็ต้องตกใจ เพราะมีคนแต่งชุดขาวสวมหมวกกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วก็หายตกใจ เมื่อรู้ว่ามุสลิมเขาทำละหมาดกัน ก็เลยนึกนิยม และคิดว่าชาวพุทธต้องทำอย่างนั่นบ้าง เลยต้องนี้ต้องลงมือทำเองให้คุ้น

@ เจ้าหน้าที่สายการบินกำลังเรียกให้ขึ้นเครื่อง เลวต้องสรุปการรายงานว่า "ผมอยู่ท่าสนามบิน LA อาคารสนามบินวันนี้คนเยอะมาก คนอเมริกันยังไแไหนมาไหนสะดวก แต่ระบบการตรวจสอบเข้มมาก เข้าเครื่องตรวจเข้มตั้งสองครั้งกว่าจะไปถึงประตูขึ้นเครื่อง โชคดีตรงท่านั่งคอยมีไวไฟให้ เลยมานั่งเขียนรสยงานถึงท่านทั่งหลาย คงได้แค่นี้ก่อนนะครับ ...ถึงที่หมายแล้วจัรายงานอีก..."

บรรจบ บรรณรุจิ

26/10/2559


コメント


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Social Icon
  • Twitter Social Icon
  • Google+ Social Icon

Join our mailing list for updates, events and recipes

ติดต่อประสาน

ฝ่ายข่าวสารและข้อมูล สำนักข่าวชาวพุทธ (Buddhist News Online)

โทร:081-558-3865 เมล์:BuddhistNews2559@gmail.com

bottom of page